วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 28 Feb 14

ทำไมเวลาเราได้กำไรแล้วมักจะไม่ออก ตั้ง SL และสุดท้ายราคามากิน SL ทำให้ได้นิดเดียว?
เพราะ เราเล่น TF ใหญ่ (H1) แล้วมามอง TF เล็ก (M15)?
เพราะ กลัวว่ามันจะวิ่งเกินทุนของเรา จึงต้องตั้ง SL ไว้ แต่ SL ที่ตั้้งไม่ดีพอ?
เพราะ เราไม่รู้วิธีการว่าเราจะออกอย่างไร? เข้าได้แต่ออกไม่เป็น?

แล้วเราจะแก้ปัญหาพวกนี้ได้อย่างไร?

Q :สิ่งหนึ่งที่เรารู้ว่าเป็นจุดอ่อนของเราคือ "เราไม่รู้ว่าจะออกตรงไหนดี?" ทำให้เราเลือกที่จะออกด้วย EMA34 หรือ EMA89 เพราะ "กลัว" จะขายหมู แต่สุดท้ายกลับทำให้เราได้น้อยตลอด ส่วนไม้ที่มันวิ่งจริงๆ เราก็ไม่ได้กิน เพราะเรา "ไม่กล้า" เข้า

A : ในอดีต สิ่งที่สอนเรามาตลอดคือ "การออกเป้า" เป็นวิธีการที่ทำให้เราได้กำไรมากที่สุดแล้ว แต่เราต้อง "ยอม" ที่จะขายหมู ต้องไม่คิดมากเด็ดขาด

Q : อีกปัญหาคือ เราเข้าด้วย lot 0.01 ซึ่งเราไม่สามารถแบ่งเพื่อออกเป้าและใช้ run trend ได้ ทำให้เรา "อยาก" จะทำกำไรให้ได้มากที่สุดในไม้ที่เราเข้าเสมอ จึงเป็นที่มาที่เราตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าเราควรจะ "ออกเป้า" หรือ "Run Trend" ดี

A : ต่อไปเราจะปรับมาเล่น lot 0.02 โดยให้ 0.01 สำหรับการออกเป้า 161.8% ส่วนอีก 0.01 ออกเป้า 261.8% หรือ EMA34

การมอง Trend ให้ดูจาก TF ใหญ่ว่าวิ่งตาม "Channel" ขึ้นหรือลง จากนั้นมาหาจังหวะเข้าใน TF ของเรา โดยหาราคาที่ไปพักตามแนว Channel นั้น + TStoch วิ่งสุดในด้านนั้นๆ

เปิด Short ต่อเมื่อ MACD > 0
เปิด Long ต่อเมื่อ MACD < 0

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 27 Feb 14

"Practise many many times, You will do it automatically"

เราจะ Run Trend ก็ต่อเมื่อราคามา Sideway อยู่เหนือ EMA89 แล้วเท่านั้น
ใน Trend หนึ่งครั้งจะต้องมี Stoch 14 สุดอย่างน้อย 1 รอบ ดังนั้นให้ทนถือไป ถ้าเราเข้าไปแล้ว
Stoch โดยธรรมชาติจะต้องขึ้นสุด OB และลงสุด OS ในทุกรอบแน่นอน เราจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้โดยเล่นตาม TStoch ใน TF ใหญ่และ Run ให้สุดแต่ละรอบ

วันนี้ได้เรียนรู้เรื่อง Multiple TF เพิ่มเติม
1. เทรดตามแนวโน้มใหญ่ เข้าด้วยแนวโน้มเล็ก --> ใช้ Channel เป็นตัวบอกแนวโน้มใหญ่
2. เลือกดูแค่ 3TF คือ H4 H1 M15 โดย TF หลักของเราคือ H1

3. Trade Setup ขา Long ของเราจะต้องรอให้ H1 มี Signal ดังนี้
3.1 TStoch ลงมา OS (<20) และตัด Signal ขึ้นมาเหนือเส้น OS
3.2 MACD ต้องตัด Signal ขึ้นมาแล้ว
3.3 ลงไปดู M15 หาจังหวะเข้าที่ราคาย่อลงมาแล้วไม่หลุด Low คือ รอ Stoch ลงมาสุด
3.4 Exit ก็ต่อเมื่อ TStoch ใน H1 ขึ้นไปจน OB และราคาหลุด EMA13 + MACD ตัด Signal ลงมา
3.5 Exit ด้วย Fibo 261.8%

4. Trade Setup ขา Short ของเราจะต้องรอให้ H1 มี Signal ดังนี้
4.1 เกิด Bearish Divergence ของ MACD หรือ RSI
4.2 MACD ตัด Signal ลงมา
4.3 ราคา Break TL รับที่ตีจาก Stoch
4.4 Exit ด้วย Fibo 261.8%
4.3 Exit ด้วย Stoch ลงมา OS ใน H1 และราคาปิดเหนือ EMA13


Multi TimeFrame

Multiple Time Fram Analysis
http://tradding2onlinemoney.blogspot.com/2013/08/multiple-time-frame-analysis.html

เทรดตามแนวโน้มใหญ่ เข้าตามแนวโน้มเล็ก
http://www.thaiforexschool.com/PDF/Level11.pdf


วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 19 Feb 14

วันนี้เล่น Poker สนุกมาก สนุกกับการอ่านเกม อ่านใจคนตรงข้าม และสับขาหลอก แต่สุดท้าย เราก็ต้องมีไพ่ดีพอที่จะเอาชนะเค้าได้ด้วย

การเล่น Short ต่อไปให้เรารอ Stoch 14 ใน H1 ขึ้นมา OB แต่ไม่ทำ New High ก่อนจึงค่อยเปิด Short

สิ่งที่เราเรียนรู้มา
1. Elliott Wave --> ใช้บอกแผนที่ว่าเราอยู่ตรงไหน (ถ้านับได้ถูกต้อง)
2. Resistance --> แนวต้าน เอาไว้ดูการชนแล้วย่อ
3. Support --> แนวรับ ราคามักจะลงมาแล้วเด้ง
4. Trend Line --> ใช้บอก Trend ได้เมื่อเบรค Trend Line แต่ความเชื่อน่าถือค่อนข้างต่ำ เพราะว่าบางที Break TL แล้ว แต่ราคากลับไปต่อ ทำให้คาดการณ์ยาก ต้องใช้คู่กับอย่างอื่น
5. EMA --> เป็นตัวบอก Trend
6. RSI --> เอาไว้ดูรอบของราคา จะต้อง 30-70-30 เสมอ
7. MACD --> ใช้บอกแรงของ Trend นั้นๆ หากราคาขึ้นมายืนเหนือ 0 ได้ จะมีแรงไปต่อสูงมาก
8. Stoch --> เคลื่อนที่เป็นรอบเหมือน RSI แต่จะเร็วกว่า และค่อนข้างมั่นใจว่าวิ่งขึ้นสุดลงสุดแน่นอน 20-80-20
9. ADX --> ใช้บอก Trend แต่ไม่ได้ใช้เลย
10. Ashi --> ใช้บอก Trend เช่นกัน เทรดตามสี แต่ต้องใช้อย่างอื่นประกอบด้วย
11. Divergence --> ใช้บอกการกลับทิศทาง ถ้าใช้คู่กับ MACD + Stoch + TL จะเห็นผลสูง
12. Multi-TF --> การดู TF ใหญ่ประกอบในการ Bias หน้าเล่น ยังดูไม่ค่อยออก แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าเราดูไปได้ น่าจะสามารถทำให้เราเลือก Trend ได้ถูกต้องมากขึ้น

TL@Stoch14 => เชื่อถือได้เวลา Break

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 18 Feb 14

ราคาชน Channel แล้วร่วงแรง
อารมณ์ของแท่งเทียน อย่าให้ความสำคัญกับมันมาก
เวลา Break TL มักมี Throw Back
ถ้า MACD H1 ตัดขึ้นมา แต่ H4 ยังไม่ตัดขึ้น ก็มีโอกาสลงต่อ ทางที่ดีรอให้ MACD H4 ตัดขึ้นมาก่อน จึงค่อยไปดู H1 หาจังหวะเข้าตอน MACD ตัดขึ้นอีกครั้ง
จังหวะเล่นขา L ดูง่าย แต่จังหวะเล่นขา S ดูยากจุงเบย
ถ้าเล่นขา S ให้เปลี่ยน Exit จาก EMA34 มาเป็น EMA13 แทน
คืนนี้ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าเราควรจะเล่นขา S อย่างไร ไปนอนดีกว่า - -zzZ

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 17 Feb 14

เงื่อนไขการเปิด Long
1. ตี TL ด้วย Stoch 14 ให้ได้
2. Break TL นี้
3. Super Stoch ตัด Signal ขึ้น หลังจากลงไปต่ำกว่า 20 แล้ว
4. MACD ทำ Kneeing จากใต้น้ำเพื่อดีดขึ้นมา
5. ราคา Break EMA34 ขึ้นมา

เงื่อนไขการปิด Long
1. ดู Price อย่างเดียว
2. Closed Price < EMA34 ปิด
3. ถ้าไม่ได้อยู่เฝ้า ให้ตั้ง SL = EMA89

Trade Setup นี้มี Error เกิดขึ้น ในกรณีที่ราคา Break TL แล้ว แต่กลับไม่ขึ้นจริงๆ เพราะราคายังไม่ทำ New High ของยอดก่อนหน้า ราคาจึงสามารถลงไปต่อได้ ดังนั้นให้รอราคา New High ยอดล่าสุดของ Stoch 14 ก่อนดีกว่า หรือ MACD ขึ้นเหนือน้ำ เพื่อความชัวร์ว่าจะไปจริง

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 13 Feb 14

เราควรจะ serious เรื่องการ Lock Profit มากกว่าการตั้งซื้อที่ราคานั้นๆ เพื่อให้เราได้กำไรแน่นอน ส่วนต้นทุนเรามาตั้งรับ บางทีอาจจะได้ดีกว่าที่เราตั้งใจไว้ก็ได้

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 12 Feb 14

สิ่งสำคัญที่เราจะต้องฝึก
1. ทำ Back Test ระบบเราให้มากพอ จนมั่นใจที่จะใช้มัน =Stoch + MACD
2. หา TF สำหรับเราให้เจอ = H1
3. การใช้กระสุนให้กำหนด Zone เอาไว้ เราจะไม่ยิงเพิ่มหากราคายังแกว่งอยู่ใน Zone
4. มีวินัย ต้องทำตามระบบอย่างเคร่งครัด
5. ศึกษา Being in the zone

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

My Trading Analysis : 8 Feb 14

สิ่งที่เราผิดพลาด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
1. คิดไปเอง --> คิดไปเองว่า MACD H1 "น่าจะ" ทำ Kneeing ขาลง เพราะแท่งเทียนใน M15 นั้นสับไปสับมา Sideway อย่างรุนแรง แต่ในภาพใหญ่ H4 MACD ยังไม่ตัด Signal ลงมาเลย แถมแท่งเทียนใน H1 ก็ยังไม่หลุด TL ต้านที่เบรคขึ้นมาด้วย
2. ไม่ดูภาพใหญ่ --> ภาพใหญ่คือ H1 & H4 ได้เบรค TL ต้านและ Channel ขาลงขึ้นมาแล้ว ราคามาทำ Throw Back บนเส้น TL แต่เรากลับไปเข้า Short ที่จุดนั้น ทำให้ติดและออกไม่ได้
3. โลภ --> ตอนที่ราคาย่อลงมาอีกครั้ง และต่ำกว่าทุน S เราไป 1 pips เรากลับไม่ตัดสินใจปิด เพราะ โลภ ทำให้คิดว่า ราคาน่าจะไหลลงไปอีก อย่าเพิ่งปิด ซึ่งถ้าเราดูภาพใหญ่ ก็น่าจะระวังตัวมากกว่านี้ เพราะมันเป็นขาขึ้นแล้ว ได้กำไรขาสวนเทรน ต้องออกทันที สุดท้ายจบสัปดาห์ ราคาไม่ลงมาที่ตรงนี้อีกเลย ติดเหวกันไปตามระเบียบ
4. ดูภาพเล็กเกินไป --> หลังๆ เรามาให้ความสนใจกับ M5 & M15 ทำให้เจอการแกว่งตัวของราคามากิน SL เราทุกครั้ง พอเราไม่มองภาพใหญ่ไว้ ทำให้เราไม่กล้ารัน ต้องตั้ง SL ไว้ตลอด มันจึงลงมากินแทบทุกครั้ง ดังนั้น เราต้องไปเล่น TF ใหญ่ เพื่อลดการ Swing ของราคาลง
5. เล่นตามอารมณ์มากเกินไป --> สัปดาห์ก่อน เรายังคุมอารมณ์ได้ดีกว่านี้ สัปดาห์นี้ ปล่อยให้เข้าตามอารมณ์เยอะ แถมตอนดึก พอมีข่าว เห็นแท่ง Big White Big Red ก็ไปเข้าตาม เจอมันดึงไปมาอยู่ 1-2 ชม. งง


ให้น้ำหนัก TF ที่ใหญ่กว่า คือ H4 ในส่วนของ MACD & Ashi
ถ้า Ashi เขียวแท่งแรกใน H4 แต่ MACD ยังไม่ตัด Signal ขึ้นมา ให้ลงไปดูใน H1 MACD จะตัด Signal ขึ้นมาแล้วพร้อมทำ Kneeing เข้า Long ด้วย H1 ได้ แต่ต้องระวังเพราะถือว่ายังเล่นสวน Trend ใหญ่คือ H4 อยู่ เนื่องจาก MACD ยังไม่ตัด Signal ขึ้นมา
TF ที่ใช้เป็นจุดเข้านั้น จะต้อง Break TL or Channel ก่อนด้วยเสมอ
การตี TL or Channel ให้ใช้ Stoch มาเป็นตัวตีเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า ถ้ามันหลุด มันจะวิ่งไปชัวร์
ถ้า Stoch ไม่ลงมาสุดให้เราตี TL แสดงว่ามันเกิดการลงในภาพเล็กแทน ต้องลงไปเล่นใน TF เล็ก
ราคามักจะหลุด Channel ไปได้ไม่ไกล ก็จะวิ่งกลับมาที่ Channel เสมอ ดังนั้น ถ้าเราเห็นแบบนี้ อาจจะตัดสินใจเข้าไปเลยก็ได้เมื่อ Ashi ให้สัญญาณ
การดู MACD
1. MACD TF ใหญ่กว่า ใช้ในการประคอง Trend และใช้ในการบอก Trend โดยดูเทียบระหว่าง TF หลักทำ TF ที่ใหญ่กว่า
1.1 ถ้าไปทางเดียวกัน --> เล่นตาม Trend
1.2 ถ้าสวนทางกัน --> ให้ยึด TF ใหญ่กว่าเป็นหลัก และเรากำลังเล่นสวนใน TF เล็กกว่า ต้องระวัง


การรอ
1. รอ MACD ให้สัญญาณ เช่น Kneeing
2. รอ Stoch ขึ้นสุดลงสุดเพื่อตี Trend Line or Channel ถ้าตีไม่ได้ ยังไม่เล่น
3. Break แล้ว MACD วิ่งไปในทางเดียวกันให้เข้าได้เลย
4. ยึด MACD TF ใหญ่กว่าเป็นหลักในการ Run Trend
5. Exit เมื่อ MACD TF ใหญ่กว่าตัดลงมา และหลุด EMA34 ของ TF หลัก
6. ถ้า MACD TF หลักตัดลงมาแล้ว และ MACD TF ใหญ่กว่ายังอยู่ด้านล่าง และหลุด TL ลงมา Exit ได้เลย

เราน่าจะมี Trade Setup สัก 2 อัน
1. Trend Line + MACD + Stoch => รอให้เป็น ต้องรอ Trade Setup มาครบก่อนจึงตัดสินใจเข้า
หา TL/Channel จาก Stoch ให้ได้ก่อน
Long Open = Break Stoch TL + MACD ตัดขึ้น
Long Close = MACD TF ใหญ่กว่าตัดลง + หลุด EMA34 หรือออกเป้า 261.8%

2. Ashi + MACD => เล่นง่ายๆ จะเปิดด้านหนึ่งและปิดอีกด้านหนึ่งพร้อมกัน
Long Open = Ashi เขียว + MACD ตัดขึ้น
Long Close = Ashi แดง + MACD ตัดลง
Short Open = Ashi แดง + MACD ตัดลง
Short Close = Ashi เขียว + MACD ตัดขึ้น
Bias หน้า Trend ตาม MACD TF ที่ใหญ่กว่า
เวลาเล่นด้วย Trade Setup นี้ให้เปิดหน้าละไม้ ถ้าไม้ไหนติดก็ปล่อยไว้ ให้เล่นแต่หน้าไม้ที่ยังไม่ติด เล่นไปเรื่อยๆ ประมาณ 2-3 ไม้ (ติดได้สูงสุด 2 ไม้) ก็จะหลุดออกมาได้เอง โดยตอนปิด ให้ปิดทำกำไรจากตัวไม้ที่ติดก่อน กำไรนิดหน่อยก็โอเคแล้ว เหมือนเอาทุนคืนมาก่อน แต่ไม้ที่เข้าทุนดีให้ Run ไป
ใช้การกรองด้วยการจำกัดกระสุนใน Zone ดังนั้นเราต้องแบ่ง Zone ก่อน ถ้าไม้นี้เราติดแล้วก็ไม่ต้องเปิด ถ้าราคายังแกว่งตัวใน Zone นั้น จะเปิดอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อราคา Break Stoch TL เพราะความเสี่ยงในการไปต่อทางเดิมน้อยแล้ว มันจะต้องเปลี่ยน Trend
เวลาเล่นให้เล่นหน้าละไม้เดียว


วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 7 Feb 14

Trade Setup ฉบับปรับปรุงใหม่ของเรา (ลดขั้นตอนการวิเคราะห์และตัดสินใจลง)
1. ดูแค่ 2TF เท่านั้น
2. MACD ต้องไปทางเดียวกันทั้ง 2 TF
3. Entry เมื่อราคา Break TL ใน TF ใหญ่กว่า
3. ถ้า MACD TF ใหญ่ตัดลงมา ให้เตรียมตัวออก
4. Exit EMA13 ใน TF ที่ใหญ่กว่า หรือ EMA34 ใน TF ที่เล็กกว่า

พลาดทีเดียว ถึงกับตายได้เลย จากนี้ไป เราต้องเทรดอย่างระมัดระวังและจัดการความเสี่ยงให้ดีกว่านี้

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary 12 Jan 14

เราพออ่านคนได้ แต่เป็นคนที่รอไม่เป็นและขาดความอดทน --> เป็นประโยคที่เราเขียนตอนเล่น poker เมื่อคืน ใช้เตือนสติว่า เรามักพลาดเนื่องจากไม่อดทนรอให้เรามีโอกาสชนะ เหมือนกับตอนเราเทรด เราไม่รอให้มันเข้าระบบที่เราคาดว่าจะได้ก่อน เราจึงเสียประจำ เพราะแท่งเทียนแต่ละแท่งใช้เวลา แต่เราเป็นพวกใจร้อน รออะไรนานๆ ไม่เป็น ดังนั้น เราต้องแก้นิสัยเสียตรงนี้ของเราให้ได้ ต่อไปเราต้อง "รอให้เป็น" และ "อดทนรอ" ให้แท่งเทียนมันเข้าตามระบบของเราก่อน จึงตัดสินใจเข้า เพื่อเพิ่มโอกาสได้และลดความเสี่ยงที่จะเสียเงินลงไป เหมือน "เราได้ไพ่คู่ Ace ในมือ โอกาสชนะเราก็เยอะตามไปด้วย"

Diary : 6 Feb 14

วันนี้รู้สึกแย่มากๆ เพราะเมื่อวานเทรดผิดพลาดไปหลายรอบ ทำให้กระสุนที่มีอยู่ 2 นัดติดเหวหมด ไม่เทรดตามระบบ อ่านเทรนไม่ขาด ไม่ระวังตัวมากๆ ก่อนจะเปิด position แบบที่เคยทำ ใช้อารมณ์ในการเล่นมากกว่าแผนที่วางไว้ ไม่นั่งสมาธิ เฝ้าจอรอจังหวะเข้า การเฝ้าจอทำให้รู้ว่า ไม่ช่วยอะไรเลย แถมเทรดแย่กว่าเดิมอีก และดันไป All In กระสุนทั้งหมดในฝั่ง S ทั้งๆ ที่ก็เห็นอยู่แล้ว TF ใหญ่ H1 & H4 อยากจะขึ้นมากกว่า แถม Break Channel ขาลงมาแล้วด้วย

คืนนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ นั่งสมาธิ และวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของเราเมื่อวานนี้

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 5 Feb 14

ช่วงนี้เทรดแย่จริงๆ อารมณ์พาไปตลอด เข้าไม่ตามแผนที่วางไว้เลย อุตสาห์ท่องเอาไว้แล้วนะว่า "ถ้าราคาห่างเส้น EMA มากๆ ไม่ควรเข้า" ก็ยังตัดสินใจเข้าไปอีก ทำให้ติดเหว 2 ไม้อีกล่ะ เมื่อเช้าอุตสาห์โชคดีตลาดลงมาให้ปิดแล้ว ไม้นี้ก็ยังพลาดอีก ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่รออย่างเดียว

สิ่งที่เราจะต้องปรับปรุงคือ
1. เราจะ L ต่อเมื่อราคาอยู่ใต้เส้น EMA หรือพันอยู่กับ EMA เท่านั้น
2. เราจะ S ต่อเมื่อราคาอยู่เหนือ EMA หรือพันอยู่กับ EMA เท่านั้น
3. เมื่อเห็นราคาหลุด EMA มาใกล้แล้ว และ MACD แสดงพลังเยอะ ไม่ควร เข้าเด็ดขาด เพราะอาจติดดอยหรือเหวได้

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 4 Feb 14

เมื่อคืนตก Trend อย่างแรงอีกแล้ว!! เพราะเราเข้าด้วย M5 ออกเป้า 261.8% M5 ไม่ผิดแผนเลย แต่ตลาดกลับลงแรงมาถึงเป้า 261.8% M15 เราพลาด เพราะตอนออกเป้าแล้วไม่ยอมเข้ามาใหม่ "กลัว" ติดเหว แต่จริงเราควรตามน้ำและวัดเป้าใหม่ เช่นตอนที่มัน  pullback แท่งเดียวเราก็ควรตามใน M1 เป็นต้น ครั้งหน้าเราต้องไม่พลาดตกรถแบบนี้อีกแล้ว

วันนี้เล่นพลาดไปหลายดอกอีกแล้ว
ตอนเช้า --> ตกรถไฟด่วนเหาะขึ้นฟ้าไปอย่างแรง ทั้งๆ ที่เห็น MACD M15 ทำ Kneeing แล้วด้วย แต่ไม่เข้าเพราะติดงานอยู่ เปิดมาดูอีกที แม่เจ้า!! ไปเกือบ 100 pips

ตอนเย็น --> เปิดจอนั่งเฝ้าหาจังหวะเข้า Short เพราะเห็น M5 & M15 Divergence ชัดมาก เฝ้าอยู่ตั้งนาน ตอนที่มันเบรค Channel + MACD ตัด Signal ลงมาใน M5 ก็ไม่ยอมเข้า เพราะไปเปิดดู M1 เพื่อรอจังหวะมัน Sideway และเข้าเมื่อมันทำ New Low ตามแผน ปรากฎ โดนแม่มลากขึ้นไป 50 pips อยากจะบ้าตาย ราคา Short ที่เราได้คือ Low สุดของรอบนั้นเลย ทำไปได้ยังไง!?

ตอนดึก --> เห็นมันเด้งขึ้นไปทำ New High อีกรอบ แต่ราคายังติด Channel H1 และ M5 & M15 Bear Div ชัดเจนอีกครั้ง และวางแผนว่าถ้าแท่งเทียนทิ้งมาทำ Engulfing ใน M15 จะเข้า Short อีกไม้ทันที ซึ่งก็ทำตามแผนจริงๆ แต่ตลาดกลับยังดึงขึ้นไปอีก เพราะมันเด้ง TL M5 "แค้นมากๆ" เซ็งสุดๆ มันอะไรกันว่ะเนี่ย วันนี้ ทำอะไรก็พลาดไปหมด ตอนนี้ไม่มีกระสุนในมือแล้ว ถ้าไม่ลงมา เราก็ติดเหวแน่ๆ 

วิธีการแก้ปัญหาตกรถ มีดังนี้
1. วัดเป้าให้ถูก TF เช่นเมื่อคืนมันเบรค Channel ของ M15 ดังนั้นต้องวัดเป้าของ M15
2. เมื่อถึงเป้า M5 แล้วแต่ MACD ยังมีแรงมากใน M5 & M15 ให้ดู M1 ถ้า Sideway และหลุด TL ลงมาก็ให้ตามเข้าไปได้เลย
3. จังหวะเข้า ถ้าค่อนข้างมั่นใจ ให้เราเข้า 2 ไม้ ไม้นึงออกเป้า M5 อีกไม้ไว้ Run ด้วย EMA34 M15
4. "รอให้เป็น" จังหวะมาแล้ว ต้องกล้าเข้าทันที อย่าลังเล ส่วนจังหวะไหนที่มันลงมาสักพักแล้ว ก็คิดดีๆ ก่อนเข้า เราอาจจะโดนดึงแบบนี้อีกก็ได้ ให้ระวังไว้ให้ดี ไม่ต้องกลัวตกรถ ตลาดมันไม่ปราณีต่อใครทั้งนั้น
5. การเห็น Divergence ไม่ได้แปลว่าจะลงเลย แค่บอกว่าแรงลดลงเท่านั้น ต้องให้ Break TL เพื่อความมั่นใจว่าจะลงจริงเท่านั้น
6. ห้ามเล่นด้วย "อารมณ์" เด็ดขาด ไม้ไหนที่เราได้ ก็ยิ้ม มีความสุข แต่ไม้ไหนที่เราพลาด เราจะทุกข์ เครียด ทำอะไรไม่ได้ขึ้นมาทันที เราต้องไม่เป็นแบบนี้ เพราะมันคือสิ่งที่เราจะต้องเจออยู่แล้ว พยายามยอมรับและเข้าใจมันซะ

2 ไม้ที่ติดเหววันนี้เราพลาดตรงไหน??
1. M15 ราคายังไม่ลงมา Test EMA34 เลยสักครั้ง ทำไมถึง Bias Short?
2. M5 ยังไม่ลงมาแตะ EMA89 เลยสักครั้ง ทำไมถึง Bias Short?
3. Divergence ชัดเจนใน M5 & M15 ก็สามารถถูก Clear ได้ง่ายๆ หาก TF ใหญ่อย่าง H1 & H4 ยังมีแรงขึ้นต่อ 
4. M1 ไปดูแล้วทำให้เราสับสน ไม่ต้องไปดูแล้ว
5. System เราคือ M15 ต้อง Break EMA34 + MACD Kneeing + Break Channel แล้ว

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Diary : 3 Feb 14

วันนี้พลาดอีกแล้วที่ "ไม่" ทำตามแผน ออกเป้า Fibo 261.8% ทั้งๆ ที่ราคาลงมาถึงเป้าที่เราวัดไว้ เพราะความโลภ อยาก Run Trend กับเค้าบ้าง ปรากฎราคาลงมาแค่เป้าเราจริงๆ และหยุดอยู่แค่นั้น จากนั้น ราคาดึงกลับมาอย่างเร็ว กิน SL ที่เราวางไว้ โชคดีอยู่อย่างนึงที่เราเน้น "ปลอดภะยไว้ก่อน เพราะตลาดไม่มีอะไรแน่นอน" เราย้าย SL มาตลอดจนมาเป็น EMA34 M5 ได้กำไรครึ่งหนึ่งของเป้า ตอนแรกรู้สึกเซ็งเพราะมันกินแล้วย่อ นึกว่าจะลงไป แต่อักแปปเดียวราคาขึ้นมากิน EMA34 M15 ก็ยังรู้สึกดีหน่อยที่ย้าย SL มาตรงนั้น

ข้อสังเกตุเพิ่มวันนี้คือ ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงหลังจากเบรค Channel มาแล้ว Stoch M5 จะต้องทำ OB-OS 1 รอบก่อนเสมอ จึงจะไปจริง

สิ่งที่แน่นอนที่สุด คือ "ความไม่แน่นอน" อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาด ดังนั้นเราจะต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา SL เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด แท่งเทียนมักจะหลอกเราเสมอ แท่งใหญ่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไปทางนั้นตลอด อาจจะใช้หลายแท่งดึงกลับมาก็ได้ 

ส่วนการที่เราจะเข้า Position มันจะต้องเบรค Channel ก่อนเสมอไม่ว่าจะเป็น Channel เล็กหรือใหญ่ก็ตาม

"การรอ การไม่คันมือ เป็นสิ่งที่ต้องทำ ส่วนการตกรถ ขายหมู เป็นเรื่องปกติ" - จานเปา

ถ้าตกรถแล้วจะหาจังหวะเข้า ให้ลงไปดู M1 และตี TL ไว้ ถ้า Break TL ก็เข้าได้เลย ต้องมีสติตลอดเวลา เพื่อพร้อมเข้าทุกเมื่อ

สิ่งที้ได้เรียนรู้วันนี้
1. เน้นปลอดภัยไว้ก่อน ตั้ง SL เสมอเมื่อมีกำไร เพราะตลาดไม่มีอะไรแน่นอนเลย
2. จากนี้ไป ออกเป้า 261.8% เสมอ ขายหมูก็ช่างมัน
3. สังเกตุ Stoch M5 จะต้อง OB-OS อย่างละรอบก่อนขึ้นจริงหรือลงจริง
4. รอ Break Channel ก่อนจึงตัดสินใจเข้า
5. ถ้าตกรถแล้วจะหาจังหวะเข้า ให้ลงไปดู M1 และตี TL ไว้ ถ้า Break TL ก็เข้าได้เลย 

Diary 1 Feb 14

เล่น Poker เมื่อคืน ได้เรียนรู้ว่า เราไม่ควรเล่นทุกตา เห็นไพ่ทุกใบเป็นโอกาส คิดไปเองว่ามัน "น่าจะ" มีไพ่แบบนี้ จึง bet สู้ ซึ่งในความเป็นจริง เราคงไม่ได้โชคดีตลอดเวลา เราต้องอยู่กับปัจจุบันและ manage ความเสี่ยงของเราเอาไว้ให้ได้ กำไรยังไม่ต้องคิดถึง เดี๋ยวมันจะตามมาเอง