วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary 31 Jan 14

และแล้วเราก็พลาดอีกจนได้ ตั้งใจจะ run trend ด้วย EMA34 M15 แต่เราดันเลื่อน SL นำหน้ามันเพราะคิดว่า "เดี๋ยวมันคงขึ้นไปถึงพอดีเองตอนเรานอน" ปรากฎ ราคาเหวี่ยงลงมากิน SL เราแล้ววิ่งขึ้นทำ New High น่าเจ็บใจจริงๆ เพราะไม้นี้ตั้งใจจะ run trend ให้สุด ดันมาพลาดง่ายๆ อย่างนี้ T-T

พลาดครั้งที่สองของวัน ตอนเช้าก็เห็นอยู่แล้วว่ามันน่าจะลง เพราะ MACD M15 Diver ชัดมาก + ราคากระแทกลงมาอย่างแรง แต่ดันไม่ยอมเปิด S เลยเพราะไปรอเด้งใน M1 พอติดงานและมาเห็นอีกที ราคาก็หลุด Low ลงมาแล้ว เราก็ไม่กล้าตาม ราคาก็ไหลลงมาอีกเยอะ สุดท้ายตกรถอีกจนได้ คราวหน้าอย่าพลาดแบบนี้อีก ถ้าเห็นอาการชัดๆ ว่าน่าตะลงแล้ว ก็ไม่ต้องเกี่ยงราคา เปิด S ไปเลย ถึงผิดทาง เราก็ยังเหลือกระสุนอีกนัด เอาไว้แก้เกมส์ได้อยู่

พลาดครั้งที่สามของวัน "กลัวว่ามันจะทำ New Low และเกิด Bull Diver" เลยทำให้ไม่กล้าเข้า กะ "รอดู" ก่อนว่ามันจะเอายังไง ซึ่งปกติเราก็ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าอยู่แล้ว ทำให้มาเห็นอีกที ราคาลงมาเป็น Trend อีกแล้ว ชีช้ำจริงๆ อดแม่มทุกไม้วันนี้ -*- ครั้งต่อไป ถ้าเห็นว่า Trend ใหญ่ลงแน่ และ MACD M15 ตัด Signal ลงมาแล้ว ให้เข้าไปก่อนเลย และถ้ากำไร 3 pips แล้วก็ให้ตั้ง SL ไว้ ถ้ามันเหวี่ยงมาโดนก็ช่างมัน แสดงว่าเป็น Bull Diver แต่ถ้าไม่มาโดน มันก็จะลงเป็น Trend ไปเลย


พลาดครั้งที่สี่ของวัน คิดอยู่แล้วว่าทองจะต้องขึ้น เพราะราคามัน Sideway ออกข้างใน M15 นานมาก และ MACD ก็ยกอย่างชัดเจน คิดอยู่แล้วว่าจะต้องตั้ง Buy Stop เอาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเฝ้า แต่หา Account No. ไม่เจอ จึงไม่ได้ key ทำให้อดไปอีกหนึ่งไม้ แสรดดดด...คราวหน้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ เอาข้ออ้างว่าหา Account ไม่เจอมาอ้างไม่ได้เด็ดขาด เทรดเดอร์มืออาชีพจะต้องพร้อมทุกสถานการณ์


สิ่งที่เราได้เรียนรู้วันนี้ส่งท้ายเดือน ม.ค. วันตรุษจีน 
1. เวลาเลื่อน Trailing Stop จะต้องตั้งให้ต่ำกว่า EMA34 M15 เสมอ
2. ถ้าเห็น Bearish Divergence ชัดเจนใน M15 และ Trend หลักก็ลง ให้เข้าไปก่อนได้เลย ทนเหวี่ยงแปปนึง คุ้มค่ากับการรอแน่ๆ
3. ราคาลงมาเป็น Trend แล้ว เกิด Sideway อาการเหมือนอยากขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ขึ้นทุกครั้งเสมอไป หากราคาหลุดลงมาพร้อมกับ MACD M15 ตัด Signal ลงมา ก็ให้เข้าไปก่อนเลย และตั้ง SL กันมันเหวี่ยงกลับมาเท่านั้น ไม่ต้องกลัว
4. เทรดเดอร์มืออาชีพจะต้องพร้อมทุกสถานการณ์ ห้ามมีข้ออ้างเด็ดขาด

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 30 Jan 14

ยิ่งใช้ Trade Setup นี้ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ เริ่มไม่มีการติดกระสุนหรือไปผิดทางแล้ว (ถ้าไม่ไปเข้าก่อนจริงๆ อย่างเมื่อวานที่ดูเฉพาะ MACD New Low แต่มันลงมาเยอะห่างจากเส้น EMA ไกลมาก จึงมีโอกาสเด้งสูง) สิ่งที่ควรทำต่อไปคือ รักษาวินัย เข้าตามระบบ Trade Setup ให้ได้ทุกครั้งเท่านั้นเอง ถึงพลาดไป 1 นัดก็ยังมีกระสุนอีกนัดมาช่วยประคองให้เล่นได้อยู่

ต่อไปเวลาเราเห็น Trade Setup ชัดเจนและเข้ากระสุน 2 นัด ก็ใช้ EMA34 ใน M5 & M15 ในการ Run กระสุนทั้ง 2 นัดดีกว่าที่จะออกเป้า เพราะได้ความต่างในเรื่องของ TF มาช่วยแล้ว

วิธีการ Run Trend
เราจะยึด M15 เป็นหลักและใช้ EMA34 เป็น Trailing Stop ซึ่งเมื่อ MACD ตัด Signal ลงมา ให้เราตั้ง TP ที่ High ล่าสุดนั้นเลยและทำ Trailing Stop ตาม EMA34 ไป โดนอันไหนก็เอาอันนั้น

การทำ Spread
เราจะทำก็ต่อเมื่อราคา Sideway ใน M5 & M15 อยู่นาน ไม่โดน SL เมื่อเห็น Trade Setup ว่ามันอยากจะลง ก็ให้เปิด Short ไว้ได้เลย ไม่ต้องรอให้ราคาลงมา Break EMA34 เพราะถึงมันดึงขึ้น เราก็ได้ TP ขา Buy ส่วนขา Short ก็แค่รอเวลาที่มันลงมาเท่านั้น เราก็จะมีกระสุนเหลือ 1 นัดไว้ใช้ยามจำเป็น

สรุป Trade Setup ของเรา
1. ราคาจะต้องเกาะเส้น EMA ไว้
2. MACD ทั้ง 3TF (M5, M15, H1) ไปในทางเดียวกันทั้งหมด ถ้า Bias Long MACD ก็ต้องตัด Signal ขึ้นมาทั้งหมด พร้อมกับราคา Break High (ข้อสังเกตุ คือ MACD M5 จะทำ New High และอยู่เหนือน้ำด้วย)
3. เมื่อราคาเบรค High อาจรอดูอีก 1 แท่ง เพราะส่วนมากราคามักจะย่อมาทำ Throw Back ที่แนวต้านนั้น ก็ให้ยิงกระสุน 2 นัดได้เลย
4. Run Trend 1 นัด + ออกเป้า 1 นัด หรือ Run Trend ทั้ง 2 นัดก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
5. เลื่อน Trailing Stop ตาม EMA34 หรือจุดที่ราคาย่ออย่างมีนัยยะ
6. เริ่มพิจารณา Exit เมื่อ MACD M15 ตัด Signal ลงมา โดยการตั้ง TP ที่ High ล่าสุด

ใช้หลักการนี้ในการ Generate Cash Flow ออกมาเรื่อยๆ อย่างที่พี่ต้านบอกไว้ ไม่ต้องเทรด Lot ใหญ่ให้เครียด เทรด Lot เล็กสุดให้เราสบายใจ เมื่อพลาดก็ไม่ SL หาก SL เราจะต้องเข้าใหม่หลายรอบซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถูก เนื่องจาก Trade Setup ทุกคนมี Error อยู่แล้ว การไม่ SL จะทำให้เรามีเวลานั่งคิดวิเคราะห์ และมองภาพรวมใหม่ว่า เราจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อ Trend ใหญ่ยังไม่เปลี่ยน มันแค่ Sideway เก็บพลังเท่านั้น เวลา Break High เราก็รู้แล้วว่ามันไปจริง ไม้นี้ Run Trend ได้ ไม่เสียตังค์ แถมกลับได้ตังค์เยอะอีก

และด้วย Trade Setup ของเรา สามารถหาจังหวะเข้าใหม่ได้ตลอด ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีให้เล่นเลย ถ้าตกรถ ก็ยอมปล่อยไป ไม่ซีเรียส "รอรถคันใหม่ดีกว่าติดดอย"

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 29 Jan 14

ถ้าเล่น TF5 ไม้แรก คือ TF15 MACD Kneeing ออกเป้า 261.8% of TF5 แล้ว ให้รอดูจังหวะเด้ง ถ้าราคาหลุด Low + MACD New Low + MACD TF15 ยังลงอยู่ ก็ให้ตามอีกครั้งได้เลย และออกเป้า 261.8% อีกที

ต้องหาวิธี Run Trend ให้ได้ เพราะคราวนี้ตกรถไฟขบวนใหญ่เลย แถมดันไปเปิด Short ที่ปลาย Trend อีก ติดเหวซะงั้น -*- แต่ก็ทำให้เห็นว่าเราเชื่อ Indi MACD แค่ตัวเดียวไม่ได้ ต้องใช้อย่างอื่นประกอบด้วย คือ Channel & EMA

>> จุดที่เราควรเข้าคือราคาต้อง Sideway เกาะเส้น EMA และเบรคเส้น EMA34 พร้อมราคาไปชน Channel ล่างเพื่อขึ้นต่อ 

แต่ครั้งนี้ที่เราพลาดเพราะไปดูแค่ MACD New Low ทุก TF แต่ราคาหลุดเส้น EMA มาไกลมาก แถมหลุด Channel ล่างอีก มันจึงมีแรงดึงกลับสูงมาก ทำให้เราติดเหวเลย ฮือๆ T-T

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

Dairy : 25 Jan 14

ตอนนี้ Trade Setup เราค่อนข้างโอเคแล้ว ใช้ EMA34+MACD

Entry ครั้งแรก ให้ดู TF15 ก่อน เงื่อนไขมีดังนี้
1. Break TL ต้าน
2. MACD Kneeing
3. Price > EMA34
4. MACD TF60 ตัด Signal ขึ้นมาอยู่ใต้น้ำ

Entry ครั้งที่สอง ให้ย้ายลงไปดู TF5 เล็กลงเพื่อหาจุดเข้าให้เร็ว โดยจุดเข้าก็เงื่อนไขเดียวกัน
1. Break TL ต้าน
2. MACD Kneeing
3. Price > EMA34
4. MACD TF15 กำลังจะตัด Signal ขึ้นมาอีกครั้ง

Entry ครั้งที่สาม ถ้าย้ายลงมาดู TF1 อันนี้คือเล่นเร็วมาก แต่จุดเข้าก็เงื่อนไขเหมือนเดิม
1. Break TL ต้าน
2. MACD Kneeing
3. Price > EMA34
4. MACD TF5 กำลังจะตัด Signal ขึ้นมาอีกครั้ง

Long = Break TL + MACD Kneeing + Price > EMA34 
Short = Break TL + MACD Kneeing + Price < EMA34 

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 24 Jan 14

เวลาเล่น Follow Trend ใหญ่ (Day & H4) เส้น TL ที่ใช้ในการ Entry ตาม Trend นั้น ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว เข้าด้วย M5 + หลุด Channel + MACD Signal ตัดลง = Sell

แต่เวลาเล่นสวน Trend จะต้องเน้นเบรค High หรือ Low เท่านั้น อย่าเล่นโดยใช้ TL หรือ MACD Kneeing อย่างเดียว ความเสี่ยงสูงมาก


"กราฟไม่เคยหลอกเรา ส่วนมากเราหลอกตัวเอง" - เสี่ยป๋อง วัชระ แก้วสว่าง

"กราฟไม่เคยหลอกเรา ส่วนมากเราหลอกตัวเอง"
ดูเสี่ยป๋องออกรายการหนึ่งแล้วชอบ เลยสรุปมาไว้เตือนใจตัวเอง

- อย่าเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป
- ดูข่าว
- หากลุ่ม
- ดูวอลุ่ม
- ดูกราฟตลอด
- ทุกอย่างเปลี่ยนได้เสมอ
- กราฟไม่เคยหลอกเรา ส่วนมากเราหลอกตัวเอง
- เสี่ยป๋องปรับตัวตลอด
- ไม่มีอะไรยั่งยืน ขึ้นได้ตลอด
- ข้อมูลพื้นฐานธุรกิจ และโบรคเกอร์จะต้องอยู่ในหัวอยู่แล้ว
- ทำให้มันเป็นเกม เราเลือกแล้ว
- วิธีการของผมถูกแค่ 70% ไม่กล้าสอนใคร
- ทุกคนผิดได้ บัฟเฟตยังมีพลาดเลย แต่เราจะต้องทำให้ถูกทางมากกว่าผิด

ทุกคนสามารถไปดูได้ที่ Link นี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=_C-_QEdauq8

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 23 Jan 13

ทำไมพอเวลาราคาลงเป็น Trend เราถึงไม่ได้ขึ้นรถกับเค้าไปด้วยซักที??

เพราะเราต้องการรับที่แนวรับ พอมันเด้งเด้งนิดเดียวแล้วลงต่อ กลายเป็นเราติดดอย
เพราะไม่เชื่อใน Indi ว่า TF ใหญ่มันอยากจะลง ก็ยังฝืนเล่น Buy
เพราะเห็น Divergence ใน TF เล็ก แล้วก็เข้า สุดท้ายโดน Clear Diver
เพราะไม่เชื่อในการเบรค New Low มันก็ต้องอยากจะลงมากกว่าขึ้นสิ
เพราะจังหวะมันลงมาแรงๆ ก็หวังว่าจะรอมันเด้งก่อนจึงเข้า สุดท้ายไม่ได้เข้าเพราะมันลงไปลึกจนใจจะรับได้
เพราะเบรค TL แล้วไม่เชื่อ พอหลุดจริงก็มาโอดครวญทีหลัง
เพราะอยากได้ทุนดี แต่ไม่เคยได้ดีจริงๆ สักครั้ง กลับต้องขาดทุนและติดดอยตลอด
เพราะทำตามใจและอารมณ์ของตัวเอง ไม่ทำตามวินัยกับระบบเทรดที่เราตั้งขึ้นมา
เพราะเห็นคนอื่นเปิดกันแล้ว ก็อยากเปิดบ้าง

เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ Trend มาครั้งต่อไป เราไม่ตกรถอีกแล้ว?
1. เชื่อใน MACD
2. เชื่อใน TF ใหญ่
3. ไม่เชื่อ Divergence TF เล็ก
4. รับที่แนวรับได้ แต่ MACD TF ใหญ่จะต้องตัด Signal ขึ้นไปแล้วและมี Divergence
5. เชื่อในการเบรค New Low ถ้าเบรค New Low จะต้องตาม Trend เท่านั้น
6. เชื่อในการเบรค TL & Channel เมื่อเบรค TL & Channel ให้เล่นตามได้เลย
7. ไม่ต้องอยากได้ทุนดี ขอแค่ได้กำไรเป็นพอ
8. ทำตามวินัยและระบบ อย่ากระแดะไปเล่นตามอารมณ์โดยเด็ดขาด
9. เชื่อการตัดสินใจของตัวเอง ไม่เชื่อคนอื่น

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 23 Jan 14

ตอนนี้เราเริ่มอ่าน Trend ได้แล้ว โดยดูจาก MACD เป็นหลัก ส่วนจังหวะเข้า ก็คือเห็น Divergence และ Sideway ชัดๆ ไม่ทำ new high ก็เข้าไปรอได้เลย เพราะเราไม่ cut loss แต่มีกระสุน 3 นัด ยังไงก็เหลือไว้ 1 นัด เผื่อมันไม่เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ Entry Point จริงๆ คือ การเบรค EMA34 และวัดเป้า Retrace ใน Loop ที่ชัด เป้าส่วนใหญ่มักมาถึง 261.8 แต่ก็ต้องดูแล้วแต่สถานการณ์

สิ่งที่เราพลาดวันนี้คือ ไปรอให้เกิด sideway ไม่ทำ new high ใน M5 ปรากฎมันไม่ทำ มันทิ้งเป็น Big Red 2 แท่งใหญ่ๆ ใน M5 เลย ทำให้เราพลาดโอกาสไป ทั้งๆ ที่ก็คิดแล้วว่า H1 น่าจะ kneeing ขาลงแน่ๆ เพราะอาการขึ้นใน M15 ค่อยๆ ไต่ขึ้นเหมือนไม่มีแรง ครั้งต่อไป ถ้าเห็นว่าขึ้นแบบไม่มีแรง และมีโอกาสทำ Kneeing ขาลงใน TF ใหญ่ ก็เข้าไปรอก่อนได้เลย เพราะยังไงเราก็มีกระสุนเหลืออีกนัด ไว้เล่นในทิศตรงข้าม หากเราคาดการณ์ผิดอยู่แล้ว

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 21 Jan 14

ราคาวิ่งไปชนกรอบ Channel + ถึงเป้า Fibo 261.8% มักจะกลับทิศเป็นอีกด้านหนึ่ง

สิ่งที่เราพิจารณาในการเข้าตอนนี้คือ
1. ดู 2TF ประกอบกันเช่น TF15 & TF5
2. MACD TF15 ตัด Signal ขึ้นมาจากใต้น้ำแล้ว
3. TF5 ราคา & MACD จะ Sideway
4. ให้เข้าเมื่อ Price > EMA34 & MACD Hist > 0
5. วัดเป้าออกด้วย 261.8% (161.8% สำหรับสวน Trend ใหญ่)
6. ไม่ SL แต่เล่น Lot Size เล็กแทน

วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

นั่งสมาธิ

สติปัญญาจะแก่กล้าขึ้นจาก "การสังเกตุ" และ "ใส่ใจ" มากขึ้น
ทำจิตใจเราว่างก่อน เอาจิตเข้าสลายความหนัก จากนั้นสังเกตุว่าจิตเราเป็นอย่างไร และก็ทำก้อนหนักๆ ให้มันสลายไป และไปรับรู้อาการเกิดดับ เมื่อรับรู้อาการเกิดดับแล้ว ให้กลับมาสังเกตุจิตของเราด้วยว่าเป็นอย่างไร ส่วนการน้อมเอาพลังจากพระอาจารย์หรือพระพุทธเจ้า ก็ทำเมื่อไรก็ได้เมื่อเรานึกถึง ทำสลับกันไปมา สิ่งที่เราต้องเพิ่มคือ "สังเกตุสภาพจิตของเราขณะตามรู้อาการเกิดดับ"
การน้อมเอาพลังจากธรรมชาติ
พระอาจารย์แนะนำให้เราเอาจิตไว้ข้างหน้าประมาณหนึ่ง และสังเกตุสิ่งที่ไหลผ่านจิตนี้ เมื่อมีอะไรไหลผ่านจิตนี้ ก็ให้น้อมเข้ามาหาตัวเพื่อเป็นพลังของเรา และสังเกตุจิตตัวเองด้วยว่ารู้สึกอย่างไร รู้สึกเบา มั่นคง หรือนุ่มนวล ขึ้นอยู่กับสภาพจิตแต่ละคน หลักนี้สามารถนำไปใช้กับการรับรู้อารมณ์ภาพนอกได้ ไม่ให้เราไหลไปตามกระแส หรืออารมณ์ของเรา รับรู้ตามความเป็นจริงของอารมณ์ภายนอกนั้นๆ
ผลลัพธ์หลังจากนั่งสมาธิรอบดึก
นำวิธีการลบความเป็นเราในแต่ละส่วนทั้งหัว ตัว แขน ขา รู้สึกว่าตัวเบามาก จากนั้นก็ตามรู้อาการเกิดดับ แต่คราวนี้สังเกตุสภาพจิตของเราไปด้วย ทำให้เห็นว่าจิตเรานิ่ง สว่าง ใส และสติเกาะติดอาการได้ดีขึ้น เมื่อนั่งไปสักพักใหญ่ เกิดเวทนาที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง ตอนแรกตามรู้อาการเกิดดับของเวทนา สักพักใช้วิธีน้อมเอาพลังจากเวทนาด้วยการให้จิตมาอยู่ข้างหน้าเวทนา พอเริ่มดึงพลังจากเวทนา รู้สึกว่าจิตสว่างวาบ และนิ่งอยู่ตรงกลางตัว ที่สำคัญคือ อาการปวดของเวทนาหายไป เหลือแต่อาการตุ๊บๆ เท่านั้น แปลกดี ทำ 3 ครั้ง ก็ได้ทั้ง 3 ครั้ง ทำให้เรารู้สึกว่าตัวหายไปจริงๆ อีกด้วย ไม่น่าเชื่อเลย ชอบๆ อิอิ

ประสบการณ์จากจาน ป. ที่ผมนับถือท่านหนึ่ง

ประสบการณ์จากจาน ป. ที่ผมนับถือท่านหนึ่ง เก็บเอาไว้เตือนตัวเองทุกครั้งไม่ให้โลภแต่ให้ทำตามระบบของเราแทน

---------------------------------------------------

แค่อยากแชร์ เผื่อจะเปนประโยชน์บ้างคับ เพราะวิธีที่ผมเล่นทุกวันนี้ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงมาจากประสบการณ์ที่คนอื่นแชร์ และสอนผมมาทั้งนั่นคับ
ผมจำวิธีที่ผมเทรดแล้วพลาดไว้หมดคับ แล้วจะไม่ทำอีกเด็ดขาด มองไม่ออก ไม่เดา ไม่คาด

สำหรับผม ไม่เดานี่สำคัญมากคับ ผมพยายามจะเล่น เพื่อหารูปแบบที่ hit rate สูง โดยที่กำไรไม่จำเป็นต้องสูงสุด แต่ทำให้ผมกล้าเล่นในวันที่ผมเพิ่มจำนวนคอนที่มากขึ้นคับ


ผมแชร์ให้ฟังนะคับ อย่าถือว่าผมอวดนะคับ ผมเคยทำสถิติ ก่อนหน้านี้ตอนผมโดนเยอะๆ hitrate 40% พอเริ่มกลับมาได้ ดีขึ้นเป็นลำดับ ได้มา 60%
ตอนนี้เริ่มประมาณ 70% คับ

สมัยก่อน ผมเล่นแล้วพยายามจะรันทุกไม้ โดนคืนกำไรเยอะ หรือกลับมาเป็นขาดทุนบ่อยมาก ช่วง sideway แบบนี้ผมมองว่า ผมจะเข้าเมื่อเบรค แล้วปิดที่แนวต้าน
หรือเป้าเท่านั้น ถ้าหมูก็ได้ตังค์ แต่ถ้าเรามองแนวต้านถูก มันชนมันจะย่อเสมอ อย่างเช่น ไฮ 885 ผมจะปิด 884.5แล้วหลังจากนั้นถ้ามันเบรคไฮ ผมจะตามที่ 886

ผมเสียโอกาสไป 2 พันถ้ามันเบรคไปเลย แต่ถ้ามันชนแล้วไม่ผ่าน ย่อแล้วร่วง ผมก็จะปิดได้ที่ราคาดี แล้วรอเล่นรอบใหม่ ใจไม่เสีย เพราะได้ตังค์บ่อยกว่าเสีย ถึงจะหมูบ่อย แต่ก็ได้ "จิตใจ" ซึ่งผมว่ามันสำคัญมากสำหรับการเทรดคับ
ผมเคยเสียติดกันหลายครั้ง จนเสียกำลังใจ แล้วเล่นแย่ลงเรื่อยๆ ผมมาสำรวจตัวเองแล้วพบว่า ไม่ใช่เทคนิคผมแย่ลง แต่ใจผมแย่ลงเรื่อยๆตะหาก
การตัดสินใจเลยไม่ดี เบรคก็ไม่กล้าเข้า มากล้าเข้ากลางทาง หรือไม่ก็เข้าปลายเทรนแล้ว แล้วก็โดน เวลาเสีย ก็อยากจะเอาคืน ซึ่งนิสัยนี้ ตอนนี้ผมเลิกขาด
เป็นธรรมดาที่เราจะพลาด ผมจะเล่นไม้ต่อไปโดยไม่คิดถึงไม้ที่เสียไปแล้ว ถ้าเราคิดจะได้ทุกครั้ง (ซึ่งจิตใต้สำนึกเราคิดแบบนั้น) เวลาเสีย หรือคืนกำไรมากๆเราจะหงุดหงิด อยากได้คืน
เราจะพยายาม "รีบเข้า" เพียงเพราะอยากได้คืน แต่ลืมไปว่า เวลาเรารีบเข้า มันเพิ่มโอกาสการเสียตังค์ด้วย
เรามักจะมองด้านที่เราจะได้ มากกว่าด้านที่เราเสียเสมอ
แต่ตอนนี้ผมเทรด ผมพยายามลดโอกาสที่ผมจะเสีย มากกกว่าหาโอกาสที่ผมจะได้คับ
ซึ่งทำให้วิธีเทรดของผมต่างออกไปจากเดิมมากกกกกก คับ

question: จานป.แล้ว จานป.ดูอะไรบ้างครับจุดเข้า มีเงื่อนไขอะไรบ้าง การเข้าแต่ละครั้ง?
Answer: ผมมันเล่นเบรคอย่างเดียวเลยคับ เล่นดักไม่เป็นอ่ะคับ
ใช้ TL แนวเฉียงกับแนวนอน แล้วดู indy คือ rsi,sto, histogram แค่นั้นคับ
แล้วก็ตี fibo เพื่อออกเป้าหรือออกเป้าตามแนวต้านคับ
จุดนึงที่ทำให้ hit rate สูงขึ้นก็คือ ไม้ที่ผมเข้ามักจะเป็นไม้มหาชนอ่ะคับ
แบบแนวนี้ ถ้าหลุดคน S ตามเพียบ ถ้าเบรคคน L ตามเพียบ อะไรแบบนี้อ่ะคับ
ผมจะไม่เข้าก่อน และไม่เข้ากลางทางเด็ดขาดคับ
แล้วก็ "ห้ามคันมือเด็ดขาดคับ" เพราะเวลาเราคันมือแล้วได้ตังค์
จะนำไปสู่การคันมือที่เสียตังค์ในอนาคตคับ
ผมมองการคันมือ เหมือนเราอยากเล่นการพนัน ซึ่งพอเราเล่นพนัน แรกๆมักจะได้ แล้วหลังๆจะเสียเสมออ่ะคับ

***ผมเคารพการตัดสินใจของตัวเองที่สุด ผมเลยไม่เคยเปิดหรือปิดตามคนอื่นเลยในช่วง 3 เดือนหลังมานี่***
ผิดหรือถูกเกิดจากตัวเองล้วนๆ ผมรู้เหตุผลที่ผมผิดหรือถูกในทุกครั้งที่เข้าสถานะคับ

Diary : 18 Jan 14

จบอาทิตย์แรกของการเทรด AJ ไปแล้ว ผลคือ กระสุน 3 นัดติดอยู่กับขา Buy หมด ไม่สามารถเล่นได้อีกแล้ว ถ้าราคาไม่ดีดกลับขึ้นมาให้เราปิด ถือว่าผลงานแย่มากๆ เราเทรดมาเป็นปีแล้ว ก็ยังพลาดง่ายๆ แบบนี้อีก ดังนั้น สิ่งที่เราต้องปรับปรุงตัวคือ "ต้องไม่ผิดซ้ำเดิมอีกเด็ดขาด" เรียนรู้จากความผิดพลาดนี้ และจำ จำ จำ!!

ข้อผิดพลาดสัปดาห์นี้
1. ไม่ทำตามแผนที่วางไว้ --> หลังจากเกิด Big Red ใน H1 เปิด short แล้วดันไปปิดและเปิด buy แทน ทั้งๆ ที่ TF ใหญ่เป็น Trend ขาลงและ MACD H1 & H4 ยังเปิดปากอ้าอยู่ เราไปหวั่นไหวกับ TF เล็กและไป "คิดเอาเอง" ว่ามันจะเด้งขึ้น เราจะได้กำไรขาเด้งก่อน ปรากฎมันลงจริงเลย ทำให้เราเสียกระสุนไปอีก 1 นัด ครั้งหน้า ต้องเชื่อมั่นใน Trend & MA

2. ราคามาถึงเป้าแล้ว ดันยกเลิก TP ไม่ได้ออกตามเป้าที่วางไว้ --> ปรากฎ ราคาไม่เคยขึ้นมาถึงอีกเลย พลาดเพราะ "โลภ" จริงๆ ครั้งหน้าต้องออกเป้าเท่านั้น ดีที่สุด หมูก็หมู

3. การแก้เกมส์ยังทำได้ไม่ดี --> รู้ทั้งรู้ว่าติด Buy อยู่ 1 นัด ก็ยังจะเล่นหน้า Buy ทั้งๆ ที่ Trend น่าจะเป็นขาลง ทำให้กระสุนเราหมด เทรดไม่ได้เลย "เทรดเดอร์ที่ไม่มีกระสุน เทรดไม่ได้ ก็ไม่มีค่าอะไร"

4. กำไรแล้วควรหาทางออก --> ไม้สุดท้ายที่เราตั้งรับไว้ และราคาเด้งมาจนกำไร 20-30 pips เรากลับไม่ออก ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็น Trend ลง สุดท้ายราคาลงมาจนติดลบ ออกไม่ได้ เราเล่นสวนเทรน ควรหาทางออก แม้จะติดงานหรืออะไรก็ตาม ไม่มีข้ออ้างทั้งนั้น เพราะการเทรด คือ การทำธุรกิจ หากทำธุรกิจแล้วขาดทุนก็ไม่มีความหมายใดๆ ที่เราจะต้องทำต่อ ถ้าเรารักจะอยู่ทางนี้จริง ต้องเทรดให้ถูกหน้า และทำกำไรให้ได้มากกว่าขาดทุน เราจึงจะอยู่กับมันได้

5. เข้าตามสัญญาณระบบทุกครั้ง --> ตอนนี้ระบบของเราคือ EMA34 + MACD หากไปในทางเดียวกันก็ให้เล่นหน้านั้น จุดช่วยยืนยันคือ MACD Kneeing หรือ MACD ใน TF ใหญ่กว่า 1 ขั้นไปในทิศเดียวกัน

6. ถ้าเราจะตั้งรับ --> ให้ตั้งรับที่เป้า 261.8% เป็นหลัก ส่วน 161.8% ให้ดูการรับในด้านเดียวกับ Trend ใน TF ใหญ่

7. หลักการเล่นต่อไปนี้ของเราคือ 
    1) เข้าสัญญาณตามระบบ EMA34 + MACD
    2) ตั้งรับในหน้าตรงข้าม (ทำ Spread) กับเป้า 261.8% หรือ 161.8% ขึ้นอยู่กับตามหรือสวน Trend

8. Poker เราไม่ควร All In หากไม่มั่นใจจริงๆ ว่าไพ่เราดีมากจนชนะเค้าได้ --> "อย่าไปวัด" กับ "อนาคต" ที่เราไม่เคยรู้ ว่าไพ่มันจะออกอะไร เหมือนกับการเทรด "อย่าไปวัด" กับการอัดกระสุนทั้งหมดไปที่หน้าเดียว ไม่งั้น หากเราติดกระสุนทั้งหมด เราไม่มีกระสุนเทรด ก็ไม่ต่างจากการ All In และแพ้ในตานั้น

วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 16 Jan 14


บทเรียนครั้งสำคัญสำหรับการ "ไม่ทำตามแผน" เมื่อวานเราตั้งรับ AJ @93.16 มันไหลลงไป 93 และดีดกลับขึ้นมาถึงเป้าหมายที่เราวัดเอาไว้คือ 93.31 ตั้ง TP ไว้แล้วด้วย แต่กลับไป Cancel เองเพราะ "โลภ" หลังจากนั้นมา มันไม่เคยขึ้นไปถึงอีกเลย ก่อนไปนอน เราก็ยังกำไรอยู่ 0.5 USD ก็ไม่ตัดสินใจปิดหรือทำ Spread Lock ความเสี่ยงเอาไว้ เพราะคิดว่า "เดี๋ยวตื่นตอนเช้ามาค่อยมาดูอีกทีก็ได้ ถ้า Lock Spread ไว้ มันลากขึ้นไปจะหาทางปิด Short ยาก" ปรากฎว่า ตื่นมาตอนเช้า ราคาไหลลงอย่างแรงก่อนตื่นแค่ 5 นาที!! OMG What da ......k!!! สุดท้ายเราต้องมาเปิด Short ที่ต่ำ 92.34 แทนเพื่อไล่ราคา เสีย Gap ไป 80-90 pips หรือ 8-9 USD คุ้มไหมล่ะ กับการไม่ Lock ความเสี่ยงไว้

บทเรียนที่ได้เรียนรู้กับการเทรดครั้งนี้
1. ทำตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง!!! ถึงเป้าแล้วต้องออก ไม่ใช่มาเปลี่ยนแผนไม่ออกกลางคัน การออกตามเป้าทำให้เราสบายใจได้ว่า ได้ออกที่ High แม้สุดท้ายมันวิ่งไปต่อก็่ช่างมัน เราจะยึดเป้า 261.8% เอาไว้ก่อนเสมอ เพราะเราไม่ค่อยได้กลับมาดูจอเท่าไร หากมันชนแล้วก็พอ เพราะเป้าค่อนข้างไกลแล้ว
2. หากมีสถานะ และ ต้องไปนอน เราจะต้องคิดว่าจะทำ Spread ไหมไว้ก่อนเลย เมื่อคืนก็รู้สึกแล้วว่ามันน่าจะลงเพราะ H4 & H1 อยู่ใต้เส้น EMA89 แถม Day Stoch ยังตัดลงมาแถว 50 คิดว่าระยะกลางน่าจะลงแน่ๆ แต่ก็ดันไม่เปิด Spread ไว้ เพราะไปห่วงว่าถ้ามันเบรคขึ้นมา เราจะหาทางปิด Short ยาก ตั้งแต่ TP ปิด Buy เอาไว้
3. เวลาลงมาแรงๆ มันมักจะมีการดึงกลับไปที่เส้น EMA13 ใน TF ที่เล็กกว่า ถ้าเราจะเปิด Short ให้เข้าไปดู TF ที่เล็กกว่าเพื่อหาจุดเข้าที่ดี
4. ให้เราวางแผนเล่น Spread โดยการตั้ง Buy/Short Limit เอาไว้ที่เป้า จะได้เป็นการ Lock Profit เอาไว้ก่อน ค่อยมาตัดสินใจว่าจะปิดแต่ละหน้าที่ตรงไหน

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary : 14 Jan 14

ปล่อยใจให้ว่าง กราฟขึ้นลงก็ให้มันอยู่ตรงนั้น เราก็แค่ตามมันไป ไม่ต้องไปมีอารมณ์โลภ โกรธ หลง ไปกับมัน

หลังจากที่เรานั่งทบทวนเกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในการเทรด สรุปได้แบบนี้
สื่งที่เราให้ความสำคัญ
1. กราฟ
2. Trend Line เส้นแนวต้านแนวรับ
3. MACD
4. Stochastic
5. EMA34 ใช้เป็น Trailing Stop
6. EMA89 ใช้บอกว่า Bias Long or Short
7. Fibo Retrace 161.8% สำหรับสวนเทรนใน TF นั้น
8. Fibo Retrace 261.8% สำหรับเทรนหลักใน TF นั้น
9. Fibo Projection ใช้เมื่อเราเห็น Pattern ชัดๆ
10. WAVE ใช้นับประกอบการตัดสินใจเท่านั้น
11. จิตวิทยาตลาด

สิ่งที่ไม่ให้ความสำคัญ
1. Volume หรือยอดการซื้อขาย
2. สัญญาณเข้าออกจากคนอื่น
3. ข่าวสาร
4. Bid Offer

จากนั้นเราก็ทำตามระบบของเราอย่างเคร่งครัด มี "วินัย" และ "ใจถึงๆ" เข้าไปลุยตลาดเลย!!

Record : AJ SHORT M5-M15 : 14 Jan 14


Plan/Action
เมื่อคืนตั้งใจ Trade AJ ด้วย TF เล็ก เพราะคิดว่าจะเล่น Day Trade จบในวัน เนื่องจากดึกมากแล้ว เราเลือกเเล่น Short เพราะเห็น M15 หลุด TL ลงมา และใน M5 ก็ใกล้จะหลุดแนวรับที่เด้งขึ้นมาแล้ว แต่ตอนเทรดก็ยังเสียวๆ เพราะภาพ H1 ขึ้นไปยังยืนอยู่เหนือ EMA89 ให้เป็นหน้า Long เข้าใจว่าเราเล่น "สวนเทรนใหญ่" จึงไม่โลภ ตั้งเป้าออกที่ 161.8% ใน M15 = 93.32 เมื่อกลับมาดูใน M5 ทำให้เห็นว่าจังหวะที่มันหลุดแนวรับ MACD ทำ New Low ด้วย จึงกล้า Short  (วงกลมสีเขียว) และวัดเป้า Loop เล็กได้ 261.8% = 93.27 ใกล้ๆ กับเป้า 161.8% ใน M15 จึงตัดสินใจตั้ง TP = 93.3 อยู่ตรงกลางทั้งสองเป้า แถมเป็นแนวรับด้วย

Result
ผล คือ เราถูก Trailing Stop ทำให้ออกไปที่ 93.43 หลังจากราคาลงมาติดที่แนว Fibo 161.8% ใน M5 เนื่องจากเรา "กลัวมันเด้งแรง" ไปตั้ง SL ตรง EMA13 (วงกลมสีแดง) ทั้งๆ ที่รู้ว่า ราคาชอบมา Overlap ที่ EMA เส้นนี้ สุดท้าย ราคาลงมาถึงเป้าที่เราวางไว้จริงๆ คือ 161.8% of M15 & 261.8% of M5 & 100% Projection Pattern Flat ตัวใหญ่ใน M5 (กรอบสีน้ำเงิน)

Lesson Learn
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการเทรดไม้นี้
1. ต้องเชื่อในเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ "อย่า" กลัวเกินเหตุ เวลาตั้ง Trailing Stop ต้องตั้งที่ EMA34 เท่านั้น
2. เทรดนี้เราใช้แค่ "Trend Line แนวรับ และ MACD 3 อย่างเท่านั้น" ก็เทรดได้ตังค์ ทำให้เห็นว่า ไม่ต้องใช้อะไรเยอะ เราก็สามารถทำเงินได้ โดยการดู 2TF ประกอบกัน
2.1 M15 ราคาหลุด TL พร้อม MACD อ้าปากลง แสดงให้เห็นถึงกำลังขาลงยังแข็งแรง แต่ราคาใน H1 ขึ้นไปยังยืนเหนือ EMA89 และ MACD ใน M15 นี้ ก็ยังอยู่ใน Zone > 0 ดังนั้น สรุปว่าเรากำลังเล่น "สวนเทรน" อยู่ วัดเป้าออกแค่ 161.8%
2.2 M5 ตอนราคาหลุดนั้น MACD ทำ New Low (เส้นแนวนอนสีเขียว) ทำให้เรามั่นใจยิ่งขึ้นว่ามันจะต้องเป็น Trend ขาลงใน M5 แน่นอน จึงเลือกวัดเป้าออกที่ 261.8% ซึ่งใกล้ๆ กับ 161.8% of M15
2.3 การเทรดครั้งต่อไปให้เรายึด Trade Setup แบบนี้ 1. ดู 2TF ติดกัน 2. ดู MACD 3. ดูหลุดแนวรับหรือ TL
3. เราต้องกล้าเล่นเมื่อสัญญาณมา หลังจากเราพิจารณาอย่างดีแล้ว


วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557

Diary 11 Jan 14

ยังคงทำตามแผนที่วางไว้ไม่ได้อีกเช่นเคย ไม่ได้ทำ Trading Record หรือ Diary ทุกวัน เพราะติดงานหรือธุระอื่นที่แทรกเข้ามาตลอด แต่เราก็จะไม่ใช้มันเป็นข้ออ้างเด็ดขาด ทุกอย่างขึ้นกับตัวเรา จัดการกับเวลาที่เรามีอยู่ ทุกคนก็มี 24 ชมต่อวันเท่ากัน เค้าทำได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเพื่อนๆ ที่เทรดด้วยกัน คือ
1. เราไม่เคยทำ Back Test ระบบเทรดของเรา เราจึงไม่รู้ข้อผิดพลาดของระบบ และที่สำคัญคือ เมื่อสัญญาณมา เรากลับไม่มั่นใจที่จะทำตามระบบ
2. เราไม่มีเวลาเฝ้าจอเหมือนคนอื่นๆ ทางแก้ของเราคือ "เทรด TF ใหญ่เช่น H4 H1" หรือ "เทรด Forex แบบ Day Trade ด้วย TF M5 M15"

เป้าหมายเสาร์อาทิตย์นี้คือ
1. สรุป KZM Model ที่เราจะใช้เทรด TDEX ให้ได้
2. สรุป Trading Record ทั้งหมด
3. เตรียม fxcm demo สำหรับลองเทรดโดยไม่ cut loss

วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

Trading Record : AJ : 7 Jan 14

วันนี้สรุป Trade Setup มาดังนี้

Long
1. Price > EMA34
2. MACD Hist > 0
3. Exit with EMA34 Trailing Stop or Fibo Retrace 161.8/261.8

Short
1. Price < EMA34
2. MACD Hist < 0
3. Exit with EMA34 Trailing Stop or Fibo Retrace 161.8/261.8

Analysis
คืนนี้เปิดคอมมาเสร็จและวิเคราะห์กราฟนิดเดียว จึงทำการเปิด Position เลย เพราะ AJ (AUDJPY) M15 นั้นเข้าเงื่อนไข Long พอดี จึงตัดสินใจเปิด Long ตั้ง TP= Fibo Retrace 261.8% = 93.73 เพราะ Trend ใหญ่ใน Day ยังถือว่าขึ้นอยู่

Result
ผลลัพธ์ ไม่เป็นไปตามคาด ราคากลับโดนทิ้งลงมาอย่างแรงเป็น Big Red Engulfing กินแท่งที่ขึ้นมาแรงก่อนหน้า ทำให้ภาพเปลี่ยนไปทันที

Lesson Learn
1. ยังไม่ได้ทำ Back Test ระบบเลยสักครั้ง ต้องไปทำ Back Test เพื่อวัดประสิทธิภาพของระบบมาก่อน
2. ระบบของเรายังไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่ในสภาวะ Sideway ถ้าใช้ EA อาจทำให้มันเปิดปิดสถานะหลายรอบได้ ดังนั้นเราต้องแก้ด้วยการวาง Trading Zone ให้กับ AJ ด้วย หากราคาแกว่งตัวใน Zone นี้ เราก็จะไม่เข้าเพิ่มหากได้มีการเข้าไปแล้ว


Trading Diary : 7 JAN 14

วันนี้เล่นโป๊กเกอร์ได้ดีเท่าที่ควร จุดผิดพลาดที่เห็นได้ชัดคือ "ไม่มีความอดทน" หรือ "รอให้เป็น" ทำให้เรา Bet พลาด อ่านเกมพลาดไป 2 ครั้งใหญ่ๆ ทั้งๆ ที่ไม่ควรพลาดเลย