วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

นั่งสมาธิ

สติปัญญาจะแก่กล้าขึ้นจาก "การสังเกตุ" และ "ใส่ใจ" มากขึ้น
ทำจิตใจเราว่างก่อน เอาจิตเข้าสลายความหนัก จากนั้นสังเกตุว่าจิตเราเป็นอย่างไร และก็ทำก้อนหนักๆ ให้มันสลายไป และไปรับรู้อาการเกิดดับ เมื่อรับรู้อาการเกิดดับแล้ว ให้กลับมาสังเกตุจิตของเราด้วยว่าเป็นอย่างไร ส่วนการน้อมเอาพลังจากพระอาจารย์หรือพระพุทธเจ้า ก็ทำเมื่อไรก็ได้เมื่อเรานึกถึง ทำสลับกันไปมา สิ่งที่เราต้องเพิ่มคือ "สังเกตุสภาพจิตของเราขณะตามรู้อาการเกิดดับ"
การน้อมเอาพลังจากธรรมชาติ
พระอาจารย์แนะนำให้เราเอาจิตไว้ข้างหน้าประมาณหนึ่ง และสังเกตุสิ่งที่ไหลผ่านจิตนี้ เมื่อมีอะไรไหลผ่านจิตนี้ ก็ให้น้อมเข้ามาหาตัวเพื่อเป็นพลังของเรา และสังเกตุจิตตัวเองด้วยว่ารู้สึกอย่างไร รู้สึกเบา มั่นคง หรือนุ่มนวล ขึ้นอยู่กับสภาพจิตแต่ละคน หลักนี้สามารถนำไปใช้กับการรับรู้อารมณ์ภาพนอกได้ ไม่ให้เราไหลไปตามกระแส หรืออารมณ์ของเรา รับรู้ตามความเป็นจริงของอารมณ์ภายนอกนั้นๆ
ผลลัพธ์หลังจากนั่งสมาธิรอบดึก
นำวิธีการลบความเป็นเราในแต่ละส่วนทั้งหัว ตัว แขน ขา รู้สึกว่าตัวเบามาก จากนั้นก็ตามรู้อาการเกิดดับ แต่คราวนี้สังเกตุสภาพจิตของเราไปด้วย ทำให้เห็นว่าจิตเรานิ่ง สว่าง ใส และสติเกาะติดอาการได้ดีขึ้น เมื่อนั่งไปสักพักใหญ่ เกิดเวทนาที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง ตอนแรกตามรู้อาการเกิดดับของเวทนา สักพักใช้วิธีน้อมเอาพลังจากเวทนาด้วยการให้จิตมาอยู่ข้างหน้าเวทนา พอเริ่มดึงพลังจากเวทนา รู้สึกว่าจิตสว่างวาบ และนิ่งอยู่ตรงกลางตัว ที่สำคัญคือ อาการปวดของเวทนาหายไป เหลือแต่อาการตุ๊บๆ เท่านั้น แปลกดี ทำ 3 ครั้ง ก็ได้ทั้ง 3 ครั้ง ทำให้เรารู้สึกว่าตัวหายไปจริงๆ อีกด้วย ไม่น่าเชื่อเลย ชอบๆ อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น