วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ดูไพ่ Tarot กับ VitTarot

วันนี้เราได้ดูไพ่ Tarot กับ VitTarot เราคิดว่าน่าจะช่วยให้เราหาทางออกปัญหาของเราได้

สรุปที่ดูไพ่ Tarot มา

เปิดไพ่ใบแรกพร้อมคำถามว่า ชีวิตพี่โยเป็นอย่างไร?


ไพ่บอกว่าเราขี่ม้าอย่างสง่า แต่เบรคกะทันหัน เพราะเจอแม่น้ำขวาง แถมไม่มองถ้วยหรือม้าด้วย เหมือนมองอย่างอื่น เหมือนกับว่า เราไม่มองเป้าหมายที่เราต้องการ ไม่มองสิ่งที่เราอยากจะทำ แต่ดันไปโฟกัสอย่างอื่น

ไพ่ใบที่สอง จำคำถามไม่ได้ แต่เหมือนให้ขยายความรายละเอียดจากคำถามแรก
แมวถือไม้ขวางเอาไว้แล้วเดินไปยังปราสาท เหมือนกับว่า เราก็พยายามเดินไปที่เป้าหมาย แต่กลับยังถือไม้เอาไว้อยู่ ทำให้เราเดินไปได้ลำบาก เหมือนเราติดอะไรบางอย่าง ไม่ยอมวางมันลง ทั้งๆ ที่มันเล็กนิดเดียวเอง ไม้ไม่ได้ปักลงพื้นขวางเราไว้ซะหน่อย เรากลับเป็นคนแบกมันไว้เอง เหมือนกับใบแรกที่แม่น้ำเล็กนิดเดียว แต่เรากลับหยุด แล้วหันกลับมาถามว่า จะเอาอย่างไรต่อไปดี

ไพ่ใบที่ 3 จำคำถามไม่ได้อีกเหมือนกัน
ความหมายของไพ่ เหมือนเรากำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกเหรียญไหนดี ทั้งๆ ที่ 2 เหรียญนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันเลย แต่กลับตัดสินใจไม่ได้ ถ้าเปรียบกับชีวิตเรา เหรียญ 2 อันนี้เหมือนกับงานประจำกับธุรกิจส่วนตัว เราไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหนดี ทั้งๆ ที่ทั้ง 2 ทางก็สามารถสร้างรายได้ให้กับเราเพื่อบรรลุเป้าหมาย "อพาร์ตเมนท์ 100 ห้อง เพื่อความสุขของครอบครัว" ได้

จากนั้นจึงถามคำถามต่อไปว่า "หากเราต้องการไปให้ถึงเป้าหมาย เราควรทำอย่างไรดี?" ก็ได้ไพ่ใบที่ 4 ออกมา
ภาพบอกว่า เราจะต้องลงมือทำอย่างจริงจัง ทุ่มเททำทีละเหรียญ แต่เหรียญแต่ละอันก็ไม่เหมือนกัน เราสามารถทำได้หลายเหรียญ แต่บรรยากาศยังดูชิวๆ

จากไพ่ 4 ใบสรุปได้ว่า เรายังพยายามไม่มากพอ รักสบายเกินไป เราต้องจริงจังกับชีวิตมากกว่านี้ คนทำธุรกิจส่วนตัวจะมานั่งชิวแบบนี้ได้อย่างไร ดังนั้นไพ่ใบที่ 4 จึงบอกว่า หากเราต้องการประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของเราจริงๆ จะต้องลงมือทำ ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ตั้งแต่วันนี้ เดี๋ยวนี้



ไพ่ใบที่ 5 คำถาม "ตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร?"
ดูสง่า มองไปที่เป้าหมาย จากนั้น VitTarot ได้เปรียบเทียบภาพแรกกับภาพที่ 5 ให้เราดู
ว่าทั้ง 2 ภาพนี้ ดูสง่าทั้งคู่ แต่ภาพแรกเรากลับไม่มองเป้าหมาย ไม่มองสิ่งที่เราต้องการจะทำ ส่วนภาพที่ 5 นี้เรามองไปที่เป้าหมาย เมื่อนำภาพ 5 มาเปรียบเทียบกับภาพ 4 ด้วย
ทำให้เราเห็นว่า เราจะต้อง "โฟกัส" ไปยังสิ่งที่เราต้องการ คือ ธุรกิจ ความฝัน ครอบครัว และลงมือสร้างมันด้วยมือของเราเองตั้งแต่วันนี้ เมื่อย้อนกลับไปดูภาพแรก คือ แมวหันมามองเรา เหมือนว่าจะเอาอย่างไรดี แสดงให้เห็นว่า เราเป็นคนขาดความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองมี ไปโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองไม่มี แต่หากเราลืมมันไป เหมือนเราได้ทิ้งไม้ที่ขวางหน้าเราอยู่ในไพ่ใบที่ 2 หันมาโฟกัสเป้าหมายของตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองมี จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ดั่งไพ่ใบที่ 5

คำถามถัดมาคือ "เราจะสำเร็จตามเป้าหมายเพื่อมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น เราควรทำอย่างไรใน Step แรก?" ไพ่ใบที่ 6 จึงถูกเปิดออก
ไพ่ใบนี้บอกว่า "ให้เราเอาเงินให้กับพ่อแม่และครอบครัวเยอะๆ" เรายอมได้หรือเปล่าที่จะลด Life Style ลงมา ยอมลงมาจากม้าในภาพแรก และลงมาทำตามเป้าหมายอย่างเต็มที่ จริงๆ จังๆ ไปเลย เพื่อให้เรารู้ว่าเรากำลังทำตามเป้าหมายไปเพื่ออะไร จะได้มีแรงทะเยอทะยาน
เมื่อเราใช้จ่ายและให้เงินกับพ่อแม่ครอบครัวเราเยอะ จะได้มีเหตุผลว่าเราทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
จริงๆ แล้วการเริ่มต้นธุรกิจ เงินไม่สำคัญเลย เป้าหมายกับความต้องการสำคัญมากกว่า เปรียบได้กับ ถ้าเราต้องการสร้างธุรกิจจากการเทรด เรื่องเงินทุนก้อนใหญ่ไม่ใช่ปัญหาเลย เราสามารถสร้างมันขึ้นมาจากเงินก้อนเล็กๆ ก่อนได้ โดยเงินส่วนใหญ่ให้เรามาให้พ่อแม่กับครอบครัวซะ

ไพ่ใบสุดท้าย ใบที่ 7 ที่ถูกเปิดออกพร้อมคำถาม "พี่จะเริ่มต้นชีวิตของพี่ ควรทำอย่างไร?"
แมวพระราชาจ้องไปที่แก้วของเค้า หมายความว่า ให้เราจ้องไปที่เป้าหมายของเราอย่างเดียว และเราจะประสบความสำเร็จเป็นดั่งพระราชาในภาพแน่นอน
เป้าหมายของเราคือ "การสร้างธุรกิจที่เราสามารถดูแลครอบครัวได้ด้วยตัวเราเอง" ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะเป็นอะไร ขอให้เราทำ เพราะมันช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้ไม่มากก็น้อย ทุกอย่างขายได้หมด ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทำแค่ 2 อย่างคือ งานประจำกับการเทรด เราสามารถทำอย่างอื่นเพิ่มเข้าไปได้ในเวลาเดียวกัน ดั่งไพ่ใบที่ 4 ที่รูปเหรียญแต่ละรูปไม่เหมือนกันเลย แต่เราจะต้องโฟกัสทำทีละเหรียญให้เสร็จ ในแง่ความเป็นจริง การที่เราทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน เราจะต้องมีทีมงานช่วยเหลือ เช่น นักธุรกิจหนุ่มที่รู้จักมีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถตามความฝันได้ เค้าทำธุรกิจ On-Line เมื่อลูกค้าสั่งของ จึงโทรไปบอกทีมงานให้ส่งของ โดยตัวเค้าเองดูแลธุรกิจอยู่ที่บ้าน นี่คือ ยุคที่การเป็นลูกจ้างยากกว่าการเป็นนายจ้าง เพราะลูกจ้างแค่ตื่นเช้าออกไปเจอรถติดก็ลำบากแล้ว

คำแนะนำ คือ ให้เราทำทุกทางไปเลย ไม่ว่าจะเป็นงานประจำและการเทรดหรือธุรกิจอื่น เราสามารถทำได้หลายทางพร้อมกัน แต่ให้ทำเต็มที่ ทำอย่างสุดความสามารถ เขียน "เป้าหมายแปะไว้บน Desktop PC" เลย เพื่อเวลาที่เราเกิดความสับสนเหมือนภาพแรก เราจะได้ดูเป้าหมายของเราและตอบตัวเองได้อย่างชัดเจนว่า เราต้องทำอะไร ไม่ใช่เสียเวลาลังเลไปกับมันอยู่ ให้เราสร้างธุรกิจขึ้นมาโดยเอาตัวเองเป็น Brand เหมือน คุณตัน อิชิตัน

แนะนำให้ไปอ่านหนังสือ 2 เล่มที่จะเปลี่ยนชีวิตเราเป็นเจ้าของธุรกิจได้ภายใน 6 เดือน
1. 4-Hr Work Week หนังสือแปลไทยที่โดนละเลย ตอนนี้หมดแล้ว ต้องไปหาหนังสือต้นฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น เป็นสุดยอดหนังสือของคนที่ต้องการสร้างระบบ Passive Income ขึ้น 1 ในตัวอย่างคือ ผู้สร้าง Website Sixpack ขึ้นมารับรายได้ Passive 1 ล้านต่อเดือน
2. ผู้ส่งสาส์นอันมั่งคั่ง แปลไทยเช่นกัน ผู้เขียนเป็นคนที่โชคร้าย เกิดอุบัติเหตุและตกงาน แต่กลับสามารถสร้างธุรกิจ "รับปรึกษาปัญหาธุรกิจครั้งละ 5,000$" จากนั้นเค้าสามารถปิดการขายทาง E-mail รายได้ 20 ล้านเหรียญภายใน 20 นาที ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ ผู้เขียนเป็น Coach ที่สอนคนให้ไปเป็น Coach อีกทีหนึ่ง

คำแนะนำสุดท้าย คือ ให้ลงมือทำธุรกิจส่วนตัวของตัวเองอย่างเต็มที่จริงๆ (พร้อมกับทำงานประจำไปด้วย) ภายในระยะเวลา 6 เดือนเห็นผลชัวร์ ถ้าไม่เห็นผลก็แย่ล่ะ

เรามาเริ่มต้นทำตามคำแนะนำดีกว่า ด้วย 3 ขั้นตอนง่ายๆ
1. Focus เป้าหมาย
2. อ่านหนังสือที่แนะนำ
3. ลงมือทำอย่างจริงจัง

เราจะต้องประสบความสำเร็จ "อพาร์ตเมนท์ 100 ห้องเพื่อครอบครัวของเรา"!!!!

ปล. ขอบคุณคุณวิชญ์ VitTarot ที่ให้คำแนะนำดีๆ มาครับ หากใครสนใจเข้าไปดูได้ที่ Fan Page และ Website ตาม Link ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/vittarot?ref=br_tf
http://www.vittarot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น