วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Slip-On Meeting

  • ให้ใช้วิธีการเทรดแบบง่ายๆ อย่าคิดเยอะ เช่น High Low HL ก็เทรดได้แล้ว
  • คนเราชอบคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องยาก มันเลยยากจริง ให้เปลี่ยนความคิดใหม่ว่า การเทรดเป็นเรื่องง่าย และใช้เรื่องง่ายๆ ในการทำเงิน
  • ต้องหาระบบกลางๆ ที่ RR = 1-2 & Win Rate = 50-60% แต่ทำให้เกิด Opportunity ในการเทรดได้บ่อยครั้ง จะทำให้ Port โตเร็วมากกว่าการตั้ง RR > 2 & Win Rate > 80% แต่เกิด Opportunity ในการเทรดน้อย
  • MM เป็นเรื่องที่จะมาครอบบนระบบ เพื่อทำให้เราอยู่รอดในระยะยาว

  • เราเป็น Trend Following ดังนั้น เราต้องเล่นหน้าเดียวกับ Trend ต่อให้ราคาวิ่งขึ้นไปเกิด OB ในขาขึ้น เราก็ไม่ควร Short ให้มองหาแผนที่จะ Buy อย่างเดียวเท่านั้น เพราะจะทำให้เราเล่นยาว และ RR = 1-2 หากเราเล่นสวนเทรน มันจะวิ่งช้า ทำให้เราอึดอัด แถม RR <= 1 เท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มค่าในการเทรดระยะยาว
  • เริ่ม Trade โดยให้ H1 เป็น TF ต่ำสุด
  • ใช้ Trend & High-Low ในการมอง Trend ในแต่ละ TF หาก Break TL ลงมา แต่ยังยก HL แสดงว่า ราคายังอยู่ในภาวะ Uptrend อาจจะ Sideway และขึ้นต่อก็ได้
  • การหา High-Low ให้ดูแนวต้านแนวรับที่ราคาไปชนแล้วร่วงหรือเด้งแรงและเร็ว
  • Bet Sizing ต่างจาก Position Sizing ตาม Jesse Livermore ทำ คือ ให้ Bet Sizing < 10% ต่อครั้ง แต่การเข้า Bet Sizing ขนาดนี้ ต้องมากับระบบที่เรามีความมั่นใจ 60-70% ที่มันมีโอกาสไปตามทางที่เราคาดการณ์ไว้ หากตำแหน่งที่เราวางแผนเข้ามีความมั่นใจแค่ 30-40% เราต้องลด Bet Sizing ลงมา เช่น เหลือ Bet Sizing 3%
  • Position Sizing เป็นส่วนย่อยของ Bet Sizing เมื่อเรารู้แล้วว่าไม้นี้เราจะ Bet Sizing 10% เราต้องไปวางแผนหาจุดเข้าในแต่ละจุด ด้วย Position
  • ระบบเทรดที่ใช้ Indicator เป็นสัญญาณเข้าซื้อขาย คือ EMA 4 เส้น ได้แก่ 12, 26, 50, 200 โดยเส้นยาวใช้เป็นการ Bias หน้า Trend ส่วน เส้นสั้นเอาไว้เป็น Signal ซื้อขาย
    • Uptrend -> EMA50 ตัด EMA200 ขึ้น
    • Downtrend -> EMA50 ตัด EMA200 ลง
    • Open Position (Uptrend) -> เมื่ออยู่ใน Uptrend แล้วรอ EMA12 ตัด EMA26 ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ โดยไม้แรกที่ได้หลังจากเพิ่งเกิด Uptrend เป็นไม้ถือยาว (Run Trend) ส่วนไม้ที่สองและสาม จะเป็นไม้สั้น
    • Close Position (Uptrend) -> เมื่ออยู่ใน Uptrend แล้ว EMA12 & EMA26 ตัด EMA50 ลงให้ปิดไม้สั้นก่อน ส่วนไม้ยาวให้ถืออยู่ จนกระทั่ง EMA12-26-50 ตัด EMA200 ลงมา จึงปิดไม้ยาว ถือว่าจบ Uptrend
    • Open Position (Downtrend) -> เมื่ออยู่ใน Downtrend แล้วรอ EMA12 ตัด EMA26 ลง เป็นสัญญาณขาย โดยไม้แรกที่ได้หลังจากเพิ่งเกิด Downtrend เป็นไม้ถือยาว (Run Trend) ส่วนไม้ที่สองและสาม จะเป็นไม้สั้น
    • Close Position (Downtrend) -> เมื่ออยู่ใน Downtrend แล้ว EMA12 & EMA26 ตัด EMA50 ขึ้น ให้ปิดไม้สั้นก่อน ส่วนไม้ยาวถืออยู่ จนกระทั่ง EMA12-26-50 ตัด EMA200 ขึ้นมาหมด จึงปิดไม้ยาว ถือว่าจบ Downtrend
    • ระบบนี้อาจจะใช้ TL หรือ Channel มาช่วยในการหาเป้าออกด้วยก็ได้ในช่วงที่ได้ไม้สองและสามแล้ว เพื่อทำให้ลดการขาดทุนกำไรลง
  • Trailing Stop ใช้ในการ Run Trend โดยทำการหา High Low ไปเรื่อยๆ ในขาขึ้น ให้เรายก Trailing Stop ตาม HL ขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าโดนก็ออกแค่นั้น นอกจากจะช่วยทำให้เราไม่ขายหมูแล้ว มันยังช่วยเราในเรื่อง MM ด้วย คือ เมื่อเรายก Trailing Stop จนไม้ล่างไม่ขาดทุนแล้ว ทำให้เราเหมือนมีกระสุนนัดใหม่ขึ้นมายิงได้อีก คราวนี้เราต้องหาจังหวะยิงเพิ่ม เพื่อใช้ในการ Run Trend หรือเก็บ CF ต่อ ขึ้นอยู่กับแผนของเรา
  • MM ทบต้น เกิดจากการใช้วิธี Trailing Stop และหาจังหวะยิงกระสุนเพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้นจาก RR=2 เท่า ด้วยไม้เดียว บางทีมันอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 เท่าได้ ด้วยการยิงกระสุนเพิ่มพร้อมกับลดต้นทุนในแต่ละไม้ที่เราเข้าไป
  • ATR ใช้บอกค่าความผันผวนของราคา เอาไว้ช่วยกรอง False Break คือ
    • ราคา Break High or Low และ ATR ทำ New High or Low จะถือว่ามีโอกาสเป็น False Break
    • ราคา Break High or Low แต่ ATR ต่ำกว่า จะถือว่ามีโอกาสไปตามแนวโน้มนั้นสูง
  • เราต้องปรับเรื่อง Bet Sizing ให้ใหญ่ขึ้นและจิตวิทยาการลงทุน ให้อ่านหนังสือ "จิตวิทยาการลงทุน" และ "Survivor Trading"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น