วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Startyourway นายตัวเองคนที่ 1 ออจัง ซูชิ

ได้ฟังคลิปของ "Startyourway นายตัวเองคนที่ 1 ออจัง ซูชิ" แล้วได้แนวคิดการทำธุรกิจดีมากๆ สรุปมาตามด้านล่างนี้ครับ ส่วนใครต้องการฟังก็เข้าไปที่ Link นี้ได้เลย
https://www.youtube.com/watch?v=fH1GyfnpmX8


1. ทำธุรกิจตอนนี้รายได้ 800,000-1,000,000 บาทต่อเดือน ทำงานวันละ 3 ชม.
2. ก่อนลาออกจะต้องหาจุดหมายที่จะทำธุรกิจ ก็มาเจอว่าเราทำอาหารมาตลอด
3. พอมาถามตัวเอง คือชอบอาหารญี่ปุ่น พอมาดูตลาดนัด มันไม่ใช่ซูชิ เราทำได้ดีกว่านี้
4. ตอนแรกออกมาทำ เปิด Google Search ไม่ได้ไปเรียน และโรงเรียนซูชิในเมืองไทยก็ไม่มี พี่ทิ้งข้าวไปเป็น 100 หม้อเลย กว่าจะโอเค "เรียนกับ Google หนังสือและลองผิดลองถูก"
5. เลือกตลาดนัดหน้าอพาร์ทเมนท์ เพราะเราไม่มีรถไปตลาดใหญ่ๆ แต่พอลงไปจริงๆ นี่มัน Red Ocean ชัดๆ เพราะมีอยู่ 3 เจ้า เราเป็นเจ้าที่ 4
6. ไปทำพร้อมกับคำสบประมาท ทำครั้งแรกปี 2551
7. ขอลองสัก 3-6 เดือน เพราะตอนนั้นอายุ 25 เท่านั้น มั่นใจว่ายังไงก็ไม่ตกงาน กลับไปทำงานประจำใหม่ก็ได้
8. กลัวว่าถ้าไปเริ่มอายุ 35-40 จะมีใครรับเราเข้าทำงาน จะเจ๊งก็ให้มันรู้ไป
9. วันแรกขายได้ 1,835 บาท ส่วนเงินเดือนเดือนสุดท้าย 20,000 บาท ตอนนั้นกลับมาบ้าน ถ้าขายทุกวันเดือนนึง 50,000 เลยนะเว้ย
10. แล้ววันที่ 2 วันที่ 3 ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เรามีกำลังใจ
11. คนที่สบประมาท ยังพูดเหมือนเดิมว่า เค้าเห่อกันอยู่
12. ทำไมวันนั้นถึงได้ 1,800 เพราะซูชิเราแตกต่างจากคนอื่น คือ ปั้นด้วยมือจริงๆ และขนาดของเราข้าวปั้นและหน้าที่เยอะเหมาะสม กินแล้วอร่อย และของพี่ปั้นไปขายไป ไม่เหมือนเจ้าอื่น คือทำมาเสร็จแล้วขาย จาก Red Ocean กลายเป็น Blue Ocean เพราะปั้นไปขายไป
13. อุปสรรค คือ เราเริ่มต้นธุรกิจหน้าฝน การเป็นแม่ค้า ฝนตกเปียก เราขายไม่ได้ ได้แค่ 600 บาท กลับบ้านร้องไห้เลย เราปฏิญาณกับตัวเองว่า จะไม่เอาของเก่ามาขายให้ลูกค้า
14. หน้าฝนเป็นอุปสรรคกับแม่ค้าตลาดนัด
15. อะไรที่ทำให้เราไปเปิดสาขาเพิ่ม มีพ่อค้าจบ ป.4 มาสะกิดว่าขายดีขนาดนี้ ทำไมไม่เปิดสาขาเพิ่ม เลยมาเลือกตลาดใกล้ๆ ที่ดูแลได้ โดยสาขาที่ 1 ให้ลูกจ้างดูแลหลังจากอยู่ตัว ที่สามเหร่ไม่นึกว่าจะเป็นสาขาหลักจนถึงปัจจุบัน แต่ที่แคบเหลือเกิน เลยกลับมาทำป้ายให้ใหญ่ไปเลย พอมาเปิดร้านวันแรก ใส่กล่องไม่ทัน ปั้นไม่ทันเลย วันแรกได้ 3,500 บาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว
16. ทำไมพี่ไม่ได้ไปดูสาขาหนึ่งแล้วยังสามารถทำธุรกิจสาขาหนึ่งได้? เพราะซูชิมันทำตามระบบชั่งตวงได้ และต้องเลี้ยงลูกน้องดี การผูกมิตรกับเพื่อนบ้านในร้านข้างๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น
17. ทั้งสองสาขารวมกันเฉลี่ย 7,000 บาทต่อวัน
18. ตัดสินใจไปต่อ เราจะมีซูชิหลังปิดร้าน ต้องหาที่ปล่อยของตอนดึก ไปเจอคลองหลอด สนามหลวง ไปคลุกกับคนที่นั่น ได้ตอบรับให้ไปขาย กลายเป็นที่ที่สร้างรายได้ให้เราครึ่งหนึ่ง คือ วันละ 15,000 บาท
19. แผลของพี่คือเรื่องเงิน ตอนออกมาเราไม่มีเงินเก็บ เป็นหนี้นอกระบบ มันคือที่สุดของชีวิตแล้ว เราต้องประหยัดเพื่อใช้หนี้ให้หมด เหมือนเพลงแสงสุดท้าย เราจะต้องไปเจอให้ได้ เราหวังแต่ว่าเราจะขายให้ได้ ทั้งๆ ที่วันนี้ยังขาดทุนอยู่ กินข้าวกับน้ำพริกสามมื้อ
20. พี่จะให้แนวทางและแนวคิดอย่างไร ให้กับคนที่อยากเป็นนายตัวเองบ้าง เค้าควรเริ่มอย่างไร? ต้องถามใจตัวเองก่อน ว่าเราอยากมีชีวิตอย่างไรหลังเกษียณ ใช้ประกันสังคม 30 บาท เงินเดือนแค่ 30,000-40,000 บาท มันซื้อชีวิตเราไม่ได้ ชีวิตเรามันแพงกว่านั้น ออจังซูชิ จะไม่หยุดที่ 1 ล้านบาทแน่ๆ จะต้องโตๆ ขึ้นไปตามขั้นของมัน ตั้งแต่อยากกินอาหารดีๆ เราก็อยากขับรถดีๆ พี่ว่าทุกคนทำได้หมด ทุกคนดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้ แต่กลัวความไม่มั่นคง แต่จริงๆ การทำงานประจำยิ่งไม่มั่นคงมากกว่า เพราะเมื่อคุณโตไปเรื่อยๆ รายได้โต แต่ศักยภาพเราก็สุดแล้วเช่นกัน เรามั่นใจได้อย่างไรว่าบริษัทจะไม่จ้างเราออก เช่นเพื่อนโดนจ้างออกได้เงิน 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งเรามาเป็นแม่ค้า เรามั่นใจว่าทำได้มากกว่านั้น
21. คำถามสุดท้าย ไม่ใช่ทุกคนทีทำได้ คนมักพูดว่า การทำธุรกิจมันขึ้นอยู่ดวง โชคชะตาด้วย? ตอบตามตรงว่า พี่เชื่อเรื่องดวงเยอะเหมือนกัน แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง สิ่งที่พิสูจน์จริงๆ มือเราเท่านั้น ที่จะเปลี่ยนดวง เปลี่ยนชีวิต ดวงคุณดี แต่คุณนอนทิ้งวันเวลาไปเปล่าๆ ยังไงก็ไม่รวย
22. ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกยุคใหม่ ยุคที่ลูกจ้างยากกว่านายตัวเอง
23. เข้าไปที่เพจ ออจังซูชิ orchan sushi
24. ถ้ามาจากเพจของคุณวิชญ์จะแถมเป็นพิเศษ

Credit : http://www.startyourway.com/ & https://www.facebook.com/vittarot ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น